ภาพจากกล้องวงจรปิด ของร้าน Wash spot (วอชสปอต)จับภาพกลุ่มเด็กชายก่อเหตุ 3 คน อายุประมาณ 10-13 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบรุ่นและทะเบียน ซ้อน 3 เข้ามาในร้านช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 16 ตุลาคมและ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในคลิปนั้น จะเห็นว่าเด็กชายสวมเสื้อสีดำ กับเสื้อลาย เดินเข้ามาภายในร้านก่อน เด็กชายเสื้อแดงจึงเดินตามเข้ามา จากนั้นเด็กชายเสื้อลายได้เดินสำรวจไปทั่วร้าน จนพบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ชู 2 นิ้วสัญลักษณ์สู้ๆ เย้ยกล้องวงจรปิด จากนั้นเด็กชายเสื้อดำชี้นิ้วเย้ยใส่กล้องวงจรปิดเช่นกัน ก่อนที่เด็กชายสวมเสื้อสีดำจะหยิบเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ กับลูกอมที่วางไว้แจกลูกค้าบนโต๊ะไป จากนั้นได้พากันขี่รถ จยย. ออกจากร้านไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้าน Wash spot (วอชสปอต)ซัก อบ แห้ง 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่ริมถนนเส้นบ้านเก่า-พานทอง ฝั่งตรงข้ามตลาดวัดศรีเลขที่ 363/1 หมู่ 7 ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี พบกับนางสาวจัน(นามสมมุติ) เจ้าของกิจการ จึงได้นำคลิปกล้องวงจรปิดมาให้ดู พร้อมได้เล่าว่า คืนของวันที่ 16 ตุลาคม 64 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้มีเด็กชายขี่รถรถ จยย.เข้ามา 3 คน ขโมยลูกอมและขวดสเปย์พ่นแอลกอฮอล์ไป จากนั้นผ่านไปจนคืนวันที่ 18 ตุลาคม เวลาประมาณ 01.00 น.กลุ่มของเด็กชายดังกล่าวได้ขี่รถ จยย.เข้ามาอีกรอบ โดยครั้งนี้มาเพียง 2 คน ขโมยลูกอมและขวดพ่นแอลกอฮอล์ ไปอีกเช่นเคย ไม่เกรงกลัวอะไรเลย ขนาดเห็นกล้องวงตรปิด ยังมีการชูนิ้วให้กล้อง ตนเกรงว่าหากไม่ทำอะไรเลยวันข้างหน้าอาจจะมาทำลายทรัพย์สินที่อยู่ในร้านได้รับความเสียหาย และอยากฝากถึงผู้ปกครอง อยากให้ดูแลลูกหลานให้ดี เพราะถ้าปล่อยให้ออกมาทำตัวแบบนี้ ชาวบ้านเดือดร้อนกันหมด อยากให้ตำรวจตามจับตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครที่ไหนอีก
ทางด้าน พ.ต.ท.ทรงพล วันทาวงษ์ รอง ผู้กำกับสอยสวน (สอบสวน) เปิดเผยว่าหลังจากที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ พร้อมคลิปหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จึงได้หาข้อมูล และจากการสอบสวนเบื้องต้นพอทราบถึงตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กเยาวชน เพราะเด็กกลุ่มนี้เคยก่อเหตุกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์มาแล้ว 1ครั้ง ทางตำรวจได้ไปเรียกตัวมาสอบสวน และทำประวัติไว้แล้วทุกคน ทั้งหมดเป็นเยาวชน ครั้งนี้ได้ไปก่อเหตุอีกก็จะได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ติดตามตัวและผู้ปกครอง มาให้การเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใคร่อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลลูกหลานให้ดี เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงประกาศ พรก.ฉุกเฉินอยู่ ถึงจะเป็นเวลา 23.00น.-03.00 น.ก็ตามส่วนเด็กและเยาวชนนั้น ก็มีกฎหมายของเด็กอยู่คือไม่ให้อออกจากบ้านหลัง 20.00 น.เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตราย และอาจจะออกไปก่อเหตุไม่ดีในสังคม หากจับได้ผู้ปกครองจะมีความผิดด้วย เหมือนอย่างเคสนี้เป็นกรณีตัวอย่าง
