พัฒนา สปอร์ต รีสอร์ต จัดงานแถลงข่าว ประกาศต่อยอดความยิ่งใหญ่ของเกมส์กีฬากอล์ฟที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 เปิดปฏิทินการแข่งกอล์ฟ 2 รายการใหญ่ ประจำปี 2566 ได้แก่ “พัฒนากอล์ฟชาเลนจ์ อเมเจอร์ โอเพ่น 2023” เป็นการยกระดับความเข้มข้นการแข่งขันกอล์ฟอเมเจอร์ที่มีเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะรวมมูลค่าสูงถึง 1,000,000 บาท และ “ช้าง ซีเนียร์ กอล์ฟ ชาเลนจ์ 2023” เปิดพื้นที่สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นอาวุโสจากทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมชิงชัย โดยมี นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พัฒนา สปอร์ต รีสอร์ท พร้อมด้วย นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน ผู้แทนบริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยเครื่องดื่มตราช้าง และนายชาติชาย วีรสินธพ ผู้จัดการทั่วไป แผนกกอล์ฟ พัฒนา สปอร์ต รีสอร์ท ร่วมแถลงข่าว ท่ามกลางสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ พร้อมทั้งนี้ทางสนามยังได้มอบทุนการศึกษาสำหรับนักกอล์ฟเยาวชนจากโครงการ “พัฒนา จูเนียร์ ทีม รุ่นที่ 1 และ รุ่นที่ 2” เพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนพัฒนาให้นักกอล์ฟเยาวชนไทย ก้าวไกลไปสู่ระดับสากลอีกด้วย
้านโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน ผู้แทนบริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยเครื่องดื่มตราช้าง ผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า “เครื่องดื่มตราช้าง” ได้ให้การสนับสนุนกีฬากอล์ฟไทยมากว่า 15 ปี โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาแบบทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึงอาชีพ พร้อมสร้างความยั่งยืนให้กับวงการกอล์ฟไทย ผ่านการปลุกปั้นตั้งแต่ระดับเยาวชนในการแข่งขันหลากหลายรายการ เพื่อให้นักกอล์ฟเยาวชนทั่วประเทศได้มีเวทีในการพัฒนาฝีมือ พร้อมต่อยอดด้วยการจัดอบรมพัฒนาทักษะกอล์ฟ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการเข้าแคมป์มาตรฐานสากล ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ที่ผ่านมา เรามีนักกอล์ฟเยาวชนที่เติบโตไปเป็นโปรกอล์ฟหลากหลายคน ไม่ว่าจะเป็น โปรกัญจน์ เจริญกุล, โปรเรย์ อมรินทร์ กรัยวิเชียร และ โปรฟีเวอร์ นิติธร ทิพย์พงษ์ ที่ได้คว้าแชมป์ Asian Tour 2 รายการในปีที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเป็นผลผลิตจากความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการสร้าง พัฒนา พร้อมผลักดันเยาวชนไทยสู่เวทีโลก สำหรับการแข่งขัน พัฒนา กอล์ฟ ชาเลนจ์ อเมเจอร์ โอเพ่น 2023” เป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์ที่ “ช้าง”สนับสนุนมาอย่างยาวนาน ซึ่งปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 13 รวมถึงการแข่งขัน “ช้าง ซีเนียร์ กอล์ฟ ชาเลนจ์ 2023” ถือเป็นอีกเวทีที่ให้นักกอล์ฟมือสมัครเล่นที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ได้ลงแข่งขันเพื่อชิงรางวัลมากมาย
ขณะที่คุณชาติชาย วีรสินธพ ผู้จัดการทั่วไป แผนกกอล์ฟ สนามพัฒนา สปอร์ต รีสอร์ท กล่าวถึง การแข่งขันกอล์ฟ ทั้ง 2 รายการทประกอบด้วย “พัฒนากอล์ฟชาเลนจ์ อเมเจอร์ โอเพ่น 2023” เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากการแข่งขันกอล์ฟรายการ พัฒนา กอล์ฟ ชาเลนจ์ ที่จัดต่อเนื่องมาแล้วท12 ปี และในปีที่ 13 ได้ยกระดับความเข้มข้นของการแข่งขันและรูปแบบ โดยจะมีการเพิ่มเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 1,000,000 บาท โดยทัวร์นาเม้นท์กอล์ฟรูปแบบซีรี่ส์ที่จัดเป็นซิกเนเจอร์ของ สนามพัฒนา ภายใต้สโลแกน “Actively Together” ผนึกกำลังกับ บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด โดยเครื่องดื่มตราช้าง พันธมิตรและผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการด้วยดีมาตลอด 12 ปี และ เครื่องดื่ม ไอออนดริ๊งก์ โพคารี่สเวท ซึ่ง“พัฒนากอล์ฟชาเลนจ์ อเมเจอร์ โอเพ่น 2023” เป็นการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไป ประเภทบุคคล ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อายุ 21 ปีขึ้นไป แบ่งการแข่งขัน 4 รอบ รอบที่ 1 วันที่ 25 พ.ค., รอบที่ 2 วันที่ 29 มิ.ย., รอบที่ 3 วันที่ 27 ก.ค., รอบที่ 4 วันที่ 31 ส.ค., และรอบสุดท้ายวันที่ 28 ก.ย. 2566 นับคะแนนโดยใช้ระบบ STABLEFORD โดยใช้ 36 System คิดแต้มต่อ และกฎเฉพาะกิจของวันแข่งขัน กรรมการจะคัดเลือกผู้ที่มีคะแนน Net Score อันดับ 1 ในแต่ละไฟล์ท โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลคนละ 10,000 บาท ผู้ชนะเลิศในรอบการแข่งขัน 4 คน ทั้ง 4 รอบ รวมทั้งสิ้น 16 คน จะได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน THE CHAIRMAN TROPHY (โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น) ซึ่งจะใช้รูปแบบการแข่งขันแบบ Matchplay 2 วัน เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะในการแข่งขัน The Chairman Trophy โดยผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมทั้งได้สลักชื่อบนถ้วยเกียรติยศนี้ด้วย
ส่วน“ช้าง ซีเนียร์ กอล์ฟ ชาเลนจ์ 2023” เป็นการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไป ประเภทบุคคล ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อายุ 55 ปีขึ้นไป แบ่งเป็นรอบคัดเลือก 2 รอบ รอบที่ 1 วันที่ 6 มิ.ย., รอบที่ 2 วันที่ 3 ก.ค., และรอบที่ 3 วันที่ 1 ส.ค. รอบคัดเลือกนับคะแนนโดยใช้ระบบ 36 System คิดแต้มต่อแต่ไม่เกิน 24 กรรมการจะคัดเลือกผู้ที่มีคะแนน Net Score อันดับ 1 ในแต่ละรอบรวม 3 คน จะได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟอาวุโสอาชีพ ของสมาคม กอล์ฟอาวุโสอาชีพแห่งประเทศไทย
