Input your search keywords and press Enter.

ผู้เสียหายกว่า 30 คน ร้องทุกข์ ตร.ถูกสาวใหญ่หลอกลงทุนเชิดเงินเกือบ 30 ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 ก.ย. 64 นางสาวปานิดา เกื้อกูล พร้อมด้วยผู้เสียหายรวมประมาณ 30 คนเดินทางมาที่ สภ.ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมคิด บุญลอย ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีราชา หลังถูก นางสาวสุพัตรา สิงห์ดำ อายุ 44 ปีหลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายอะหลั่ยรถ แล้วจะได้รับการปันผลประโยชน์ทุกเดือน ก่อนจะหลบหนีหายไป ไม่สามารถติดต่อได้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 27 ล้านบาท


โดย นางสาวปานิดา เกื้อกูล เปิดเผยว่า ตนเองมีเพื่อนที่รู้จักได้มาชักชวนให้ลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน โดยจะมีเงินปันผลให้ผู้ที่ร่วมลงทุนทุก ๆ สิ้นเดือน เริ่มแรกก็ร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวนน้อย ๆ ก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มชักชวนเพื่อนที่รู้จักหลาย ๆ คนให้ลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยชักชวนว่าให้นำเงินมาให้ให้ นางสาวสุพัตรา นำไปลงทุนแล้วจะมีเงินปันผลให้ทุกเดือนในจำนวนที่ทุก ๆ คนพอใจ หลังจากลงทุนไปได้ระยะหนึ่ง นางสาวสุพัตราก็มาแจ้งว่าธุรกิจที่ลงทุนไปนั้นขาดทุน โดยที่ไม่มาแจ้งกับผู้ลงทุนว่าล้มเพราะอะไร ขาดทุนเพราะอะไร แล้วก็หลบหนีไปเลย ซึ่งผู้ลงทุนบางคนต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน เนื่องจากเห็นว่ามีการปันผลรายได้ค่อนข้างดี ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 27 ล้านบาท
โดยผู้เสียหายรายหนึ่งเปิดเผยว่า เริ่มต้นจากตนเองเป็นเพื่อนกับ นางสาวสุพัตรา และเห็นตนเองมีชีวิตที่แย่ จึงเสนอตัวช่วยด้วยการหาเงินมาลงทุนกับนางสาวสุพัตรา จะได้มีเงินปันผลมาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งช่วงแรกมีการปันผลที่น่าพอใจ จึงไปหากู้เงินไปยืมเงินมาลงทุนเพิ่ม จากครั้งแรกลงทุนไป 40,000 บาทได้เงินปันผลมา 4,000 บาท บางคนลงทุนมา 2 ปี บ้าง 6 เดือนบ้าง บางคนเพิ่งลงทุนไปได้ไม่ถึงเดือน ก็ถูกเชิดเงินหลบหนีไปแล้ว


โดยพฤติกรรมของนางสาวสุพัตรานั้นจะเดินทางมาถึงบ้านของแต่ละคน แล้วพูดจาหว่านล้อมให้เพื่อน ๆ ร่วมลงทุน แล้วได้ผลประโยชน์ ทำให้ผู้เสียหายคล้อยตามร่วมลงทุนไปด้วย โดยครั้งแรกจะลงทุนในวงเงินที่น้อย ๆ ก่อน ซึ่งผลตอบแทนในครั้งแรก ๆ ก็ได้รับส่วนแบ่งเป็นที่น่าพอใจ หลังจากแจ้งยอดปันผลให้กับผู้เสียหายได้ทราบแล้ว ก็จะชักชวนผู้เสียหายให้นำเงินในส่วนที่ปันผลประโยชน์ไปลงทุนเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ยอดปันผลประโยชน์ในครั้งต่อไปเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย ซึ่งในช่วงแรก ๆ ได้เงินปันผลดี ทำให้ผู้เสียหายไปหาเงินลงทุนมาเพิ่ม จนเป็นเงินรวมกันเป็นจำนวนที่สูงเกือบ 30 ล้านบาท หลังจากนั้นพอมีผู้เสียหายต้องการถอนเงินลงทุน นางสาวสุพัตราก็บ่ายเบี่ยงและบอกว่าในช่วงนี้ยังไม่สามารถปันผลได้ ตนเองจึงนำเรื่องไปปรึกษาเพื่อนที่รู้จักกัน จนทราบว่า นางสาวสุพัตราได้ไปหลอกลวงเพื่อน ๆ อีกหลายคน จึงได้คุยกันถึงเรื่องการลงทุนจนทราบว่ามีเพื่อนในกลุ่มถูกนางสาวสุพัตราหลอกให้ร่วมลงทุนด้วยจำนวนกว่า 30 รายในพื้นที่อำเภอศรีราชา รวมเงินทั้งสิ้นประมาณ 27 ล้านบาท จึงได้รวมตัวกันมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ศรีราชา ไว้ เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการนำตัวนางสาวสุพัตรามาดำเนินคดีต่อไป