Input your search keywords and press Enter.

ลูกชาย ติดใจแม่วัย 64 ปี ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า แล้วเสียชีวิต โพสต์ติดใจการเสียชีวิตลงโซเชี่ยล

จากกรณี ที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งชื่อว่า โย โตบ้านเพื่อน ได้โพสต์ข้อความ พร้อมกับรูปภาพ ว่า คุณแม่นงเยาว์ อายุ 64 ปี 3 เดือน มีโรคประจำตัวคือ เบาหวานและความดัน ทานยาตามที่แพทย์สั่งเป็นประจำและพบแพทย์ทุกครั้งตามนัดเป็นเวลาร่วม 10 กว่าปี ใช้ชีวิตตามปกติ สุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงดี อาจจะมีเจ็บออดแอดๆ ตามประสาคนสูงวัย
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 64 ช่วงบ่าย คุณแม่ ได้รับวัคซีนป้องกัน covid-19 “แอสตร้าเซนเนก้า” (AstraZeneca) เข็มแรก เนื่องจากมีรายชื่อจากทางภาครัฐ ให้ไปรับการฉีดวัคซีน หลังจากที่คุณแม่ได้รับวัคซีน กลับมาช่วงเย็นมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดและมีอาการอ่อนเพลียไข้ขึ้นเล็กน้อย จึงทานยาพาราเซตามอล แล้วพักผ่อน


วันที่ 30 กรกฎาคม 64 คุณแม่มีอาการดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอ่อนเพลียและมีไข้เล็กน้อย จึงให้ทานยาพาราเซตามอลและดื่มน้ำมากๆ แล้วพักผ่อน
วันที่ 31 กรกฎาคม 64 ช่วงเวลาประมาน 07:00 ถึง 09:00 คุณแม่อาเจียนและอุจจาระออกมาเป็นเลือดอย่างรุนแรง อาการของคุณแม่ไม่มีแรงและอ่อนเพลีย เวลาต่อมาคุณพ่อได้ติดต่อรถฉุกเฉิน มารับคุณแม่ไปรักษายังโรงพยาบาลบางละมุง (สิทธิ์การรักษา) 11:00 โดยประมาณ คุณแม่ถึงโรงพยาบาล อาการคุณแม่ทรุดลง ความดันตก ต้องการเลือดกรุ๊ปโอด่วน แต่ทางแพทย์แจ้งว่าทั่วชลบุรี จัดหาเลือดให้คุณแม่ได้แค่ 2 ถุง และบุคลากรรวมถึงเครื่องมือแพทย์ไม่พร้อม จึงจะส่งตัวคุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลชลบุรี ผมจึงได้โพสลงเฟสบุ๊คเพื่อขอรับบริจาคเลือด และตัวผมเองกำลังรีบขับรถเพื่อไปบริจาคเลือดให้คุณแม่ แต่ไม่ทัน..หัวใจคุณแม่หยุดเต้น จึงไม่สามารถย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลชลบุรีได้ เบื้องต้นทางทีมแพทย์ได้ทำการ CPR ถึง 4 ครั้ง คุณแม่มีชีพจรกลับมา แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถยื้อชีวิตคุณแม่ไว้ได้ ทางทีมแพทย์แจ้งว่าช่วงที่หัวใจคุณแม่หยุดเต้น ทำให้ก้านสมองคุณแม่ขาดอ๊อกซิเจนถึง 4 นาที จึงทำให้ก้านสมองตาย คุณแม่เสียชีวิตลงในเวลา 15:30 น. ทางโรงพยาบาลบางละมุง ระบุสาเหตุการเสียชีวิตคือ เลือดออกทางกระเพาะ แพทย์สอบถามว่าติดใจการเสียชีวิตหรือไม่ ถ้าติดใจจะติดต่อส่งร่างคุณแม่ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา
วันที่ 1 สิงหาคม 64 ผลการตรวจ covid-19 ของร่างคุณแม่เป็นลบ คือไม่ติดเชื้อ จึงส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา
วันที่ 2 สิงหาคม 64 ไปรับร่างคุณแม่พร้อมรับผลชันสูตร แพทย์ระบุการเสียชีวิตคือ ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลียว และต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีก 64 วัน ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานของรัฐหรือทางสาธารณสุข เข้ามาดูแลติดตามหรือเยียวยากับเคสของคุณแม่ สิ่งที่จะทำต่อคือการเรียกร้องความถูกต้องอย่างเป็นธรรมให้กับคุณแม่ อย่างไรก็ตามตัวผมเองก็ต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของคุณแม่มีผลเกี่ยวเนื่องหลังการได้รับวัคซีนหรือไม่ แล้วผมจะคอยอัพเดทการเรียกร้องให้คุณแม่ต่อไปครับ. ถ้าคุณแม่ไม่ฉีดวัคซีนก็คงไม่เป็นเช่นนี้ ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวไหนเลย #แอสตร้าเซนเนก้า หลังจากนั้นก็มีการกดไลค์ กดแชร์ ข้อความดังกล่าวเป็นจำนวนมาก บางคนเข้ามาแสดงความเสียใจกับเจ้าของโพส
ล่าสุดวันนี้ 7 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 16/25 หมู่ 3 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุี พบกับ นาย วุฒิพงษ์ ถาณะ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย นางนงเยาว์ ถาณะ อายุ 64 ปี 3 เดือน (ผู้เสียชีวิต) ก็อยู่ในสภาพที่ยังทำใจไม่ได้ โดยลูกชายยังติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตของนางนงเยาว์ ถาณะ (มารดา)
นาย วุฒิพงษ์ ถาณะ อายุ 31 ปี เล่าว่า หลังจากที่ทางเทศบาลตะเคียนเตี้ย ได้ให้แม่ไปรับบัตรคิว เพื่อไปรับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลบางละมุง ซึ่งแม่ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในวันที่ 29 กรกฎาคม 64 ช่วงบ่าย หลังจากที่คุณแม่ได้รับวัคซีนกลับมาช่วงเย็น ก็มีอาการปวดแขนบริเวณที่ฉีดวัคซีน และมีอาการอ่อนเพลีย และอาการไข้ขึ้นเล็กน้อย จึงได้รับประทานยาพาราเซตามอล แล้วก็ได้พักผ่อน ในวันที่ 2 คุณแม่ก็มีอาการอ่อนเพลียและมีไข้เล็กน้อย จึงให้ทานยาพาราเซตามอลและดื่มน้ำแล้วพักผ่อน และในวันที่ 31 กรกฎาคม 64 ช่วงเช้ามืด เวลา 05.00 ก็ยังปรกติดี และคุณแม่ก็ได้ออกมาเปิดประตูบ้านให้กับคุณพ่อ คุณแม่ก็เดินกลับเข้าไปพักผ่อนในห้อง ส่วนคุณพ่อนอนอยู่บริเวณห้องโถง ซึ่งปรกติแม่จะตื่นมาทำอาหารในเวลา 07.00 น. แต่จนถึงเวลา 09.00 น. แม่ก็ยังไม่ออกมาจากห้อง พ่อได้ไปเปิดประตูดูภายในห้อง ซึ่งเห็นภาพแม่ นั่งจมกองเลือดอยู่ภายในห้อง หลังจากนั้นก็ได้โทรศัพท์บอกตน ตนจึงรีบขับรถกลับมาที่บ้านในตอนนั้น จากนั้นพ่อก็ได้ติดต่อรถพยาบาล เพื่อนำตัวแม่ไปรักษา ถึงโรงพยาบาลบางละมุงในเวลา 11.00 น. ซึ่งในขณะนั้นทางหมอได้สอบถามตนกับพ่อว่า ให้ช่วยเหลือถึงที่สุดไหม ตนก็ตอบว่าให้ช่วยเหลือแม่ให้ถึงที่สุด ในขณะเดียวกันหมอได้แจ้งกับตนว่าแม่ได้เสียเลือดเป็นจำนวนมาก และทั้งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีเลือดกรุ๊ปโอให้แม่แค่ 2 ถุง ตนก็ได้โพสผ่านเฟสบุ๊คเพื่อขอรับบริจาคเลือดให้กับแม่ ซึ่งทางแพทย์ได้บอกกับตนว่า เลือดที่ได้มาจากการบริจาคได้นำไปแยกในทางการแพทย์อีกครั้งและใช้เวลานานเลยไม่มีเหลือให้แม่ ซึ่งทางแพทย์ก็บอกกับตนว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลไม่พร้อมเลยต้องส่งตัวแม่ไปที่โรงพยาบาลจังหวัดชลบุรี หลังจากนั้นหัวใจคุณแม่หยุดเต้น เบื้องต้นทางทีมแพทย์ได้ทำการ CPR ถึง 4 ครั้ง คุณแม่มีชีพจรกลับมา ซึ่งทางแพทย์ได้แจ้งว่าก้านสมองของแม่ขาดออกซิเจนไปนานถึง 4 นาทีแล้ว ตนกับพ่อก็ตัดสินใจ ที่จะไม่ให้ปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตแม่ต่อ โดยสภาพแม่ตอนนั้นซีโครงหักหมดแล้ว ก็เลยปล่อยให้แม่ไป
หลังจากที่แม่เสียชีวิต ทางแพทย์ได้สอบถามว่าติดใจในการเสียชีวิตหรือไม่ ตนตอบว่ายังติดใจในการเสียชีวิตของแม่ เนื่องจากแม่มีโรคประจำตัวคือ เบาหวานและความดัน แต่ก็ไปพบแพทย์ตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง ซึ่งก่อนที่จะส่งตัวไปชันสูตรทางโรงพยาบาล ได้ตรวจสอบว่าแม่มีการติดเชื้อโควิด 19 หรือไม่ ซึ่งผลการตรวจเป็นลบ แม่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19


ผลชันสูตรเบื้องต้น จากทางโรงพยาบาลบางละมุง ถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่า มีเลือดออกในช่องท้อง ตนก็ยังติดใจถึงสาเหตุการตายของแม่ จึงได้ส่งไปชันสูตรยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทางโรงพยาบาล ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ว่า ระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว สันนิษฐานจากพยาธิสภาพของตับ และต้องรอผลอย่างละเอียดอีก 64 วัน ว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับการรับการฉีดวัคซีนหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็ได้นำศพของแม่ มาทำพิธีตามศาสนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนที่เข้ามาช่วยเหลือ ตนก็ยังย้ำว่าแม่ของตนใช้ชีวิตก่อนหน้านี้อย่างปรกติ แต่หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนมา 2 วัน ก็เสียชีวิต ซึ่งตนก็ยังทำใจไม่ได้ ในการจากไปของแม่ อยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย